กอดด้วยความรัก
และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้ ( 1 โครินธ์ 13:13)
ตอนผมอายุ 14 ปี คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการสาหัส และทุกข์ทรมานจากสมองได้รับบาดเจ็บ บางวันท่านเดินไม่ได้เพราะเจ็บปวดมาก ต้องใช้เวลา
นานถึง 10 ปีกว่าจะหาย ซึ่งเวลานั้นเองเป็นช่วงที่เราลำบากมาก เพราะเสาหลักของครอบครัวทำงานไม่ได้ ชีวิตของเราจึงเปลี่ยนไป
คืนหนึ่ง เมื่อผมอายุ 16 ปี คุณพ่ออยู่คนเดียวในห้องของท่าน ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ผมคิดว่าท่านคงต้องการความรักที่แสดงออกด้วยการกระทำ
และผมก็เชื่อว่าพระเจ้าทรงทำเช่นนั้น ผมจึงเดินเข้าไปในห้องของท่าน และบอกว่าผมรักคุณพ่อ พร้อมกับเข้าไปกอดท่านนานหลายยนาที
น้ำตาของท่านไหลนองแก้ม ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป ไม่รู้ว่าท่านกำลังเจ็บปวดซึมเศร้า หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า หรือถูกทดลองให้คิดฆ่าตัวตาย
จนถึงปัจจุบันนี้คุณพ่อยังรู้สึกซาบซึ้งที่ผมกอดท่าน และขอบใจผมที่ทำเช่นนั้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณพ่อกับผมเล่าเหตุการณ์พิเศษครั้งนั้นให้หลายคนฟัง เราไม่รู้ว่าการสวมกอดแค่ครั้งเดียวจะเกิดผลเช่นนี้
พระเจ้าทรงสอนให้ผมรู้ว่าการกระทำเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดไป
อธิษฐาน ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงรักข้าพระองค์ทั้งหลายเหมือนบุตรพระองค์ โปรดให้ข้าพระองค์แสดงความรักแก่บรรดาผู้ที่ขาดความรัก อาเมน
ข้อคิด พระเจ้าทรงกระตุ้นข้าพเจ้า ให้ส่งสัญญาณแห่งความรัก
เดวิด สมิธ (สหรัฐอเมริกา)
จากหนังสือห้องชั้นบน