โรคหวัด โควิด ภูมิแพ้
แม้ว่าแนวโน้มการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น แต่เมื่อไรก็ตามที่ไอหรือจามในที่สาธารณะ ก็จะต้องเจอกับสายตาหลายคู่มองด้วยสายตากดดัน ว่าเป็น โควิด-19 หรือเปล่า (โดยเฉพาะที่มีคนจานวนมาก เช่น ลิฟต์ รถไฟฟ้า)
แล้วเราจะแยกกันอย่างไรว่าที่จามหรือไอเกิดจาก หวัด โควิด-19 หรือภูมิแพ้ ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักสาเหตุของโรคกันก่อนค่ะ
“โรคหวัด” (Common cold) มีสาเหตุจากการติดเชื้อ ไวรัสหลายสายพันธุ์ เช่น Rhinovirus, Parainfluenza หรือแม้แต่ Coronavirus (แต่ไม่ รวม SARS-CoV2 ที่เป็นสาเหตุ โควิด-19) ดังนั้น ผู้ป่วยบางส่วนจะมีไข้จามน้ำมูกมากไออาการดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน อาการก็จะค่อยๆดีขึ้น ตามลำดับ
“โรคโควิด-19” (COVID-19) สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ SAR-CoV2 อาการมากน้อยขึ้นกับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยในรายที่มีอาการ มักจะมีไข้ ไอ น้ำ มูก ไม่ค่อยมาก และบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้แก่ ปอดอักเสบ เหมือนที่เราเห็นในข่าว
“โรคภูมิแพ้” (Allergic Rhinitis) สาเหตุเกิดจากร่างกายไวต่อสารก่อภูมิแพ้บางประเภท ทำให้มีอาการจามคันจมูก คันตา น้ำมูกไหล ผื่นคัน ไม่มีไข้ และในรายที่มีโรคหืด (Asthma) ร่วมด้วยอาจทำให้มีอาการไอแน่นหน้าอก เหนื่อย (คล้ายโควิด-19) เกิดขึ้นได้ อาการดังกล่าวจะสัมพันธ์กับช่วงเวลาที่สัมผัสต่อสารที่แพ้ เช่น ช่วงก่อนเข้านอนหรือตอนเช้า
จะเห็นได้ว่าอาการของทั้งโรคหวัด โควิดและภูมิแพ้นั้น มีบางอาการที่คล้ายคลึงกันดังนั้นหากมีอาการทางเดินหายใจไม่ว่า จะเป็นอาการน้ำมูกไอโดยเฉพาะถ้ามีไข้ หากดูแลตัวเองในเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
แพทย์เฉพาะทางภูมิแพ้ ศูนย์ภูมิแพ้และแพ้อาหารโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน